อาการท้องผูกจะลดลงได้หากดื่มน้ำสะอาดให้ได้ประมาณวันละ 2 ลิตรและกินผักผลไม้ให้ได้สัดส่วนที่มากกว่าอาหารประเภทเนื้อสัตว์และแป้งเพราะผักผลไม้จะมีกากใย (Fiber) ที่ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปโดยปกติ การวางแผนการทำงานว่างานไหนควรจะทำก่อนทำหลังแล้วทำไปตามแผนที่วางไว้ก็จะช่วยลดความเครียดในการทำงานได้ นอกจากนี้การป้องกันอาการท้องผูกจำเป็นต้องแบ่งเวลาเพื่อการออกกำลังกายบ้างวันละครึ่งชั่วโมงก็ยังดีแต่ต้องทำเป็นประจำ การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้และระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น หากจำเป็นต้องใช้ยาระบายควรเลือกยาสมุนไพรเพราะนอกจากจะมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการท้องผูกแล้วยาสมุนไพรจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ
วิธีเลือกใช้สมุนไพรบรรเทาอาการท้องผูก (Herb for Constipation) ต้องดูที่สาเหตุหากผู้ป่วยเกิดท้องผูกเพราะกินอาหารที่มีกากใยน้อยคือกินแต่เนื้อสัตว์ควรเลือกใช้สมุนไพรที่นอกจากจะช่วยระบายท้องแล้วยังต้องช่วยเพิ่มกากใยอาหารให้แก่ร่างกายเช่น กล้วยน้ำว้า มะละกอสุก แมงลัก ฯลฯ แต่หากอาการท้องผูกเกิดจากพฤติกรรมในการกลั้นอุจจาระเป็นประจำลำไส้ใหญ่ไม่ค่อยบีบตัวที่อาจมีสาเหตุจากความเครียดของผู้ป่วยควรเลือกใช้ยาสมุนไพรที่เป็นยาระบายและช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่เช่น ชุมเห็ดเทศ มะขามแขก เป็นต้น
สมุนไพรอีกกลุ่มหนึ่งจะมีคุณสมบัติในการทำให้ร่างกายต้องขับเอาน้ำเข้ามาสู่ระบบทางเดินอาหารมากขึ้นทำให้เกิดการระบายท้องได้ ด้วยคุณสมบัติของสมุนไพรที่มีความเป็นกรดหรือเกลือจะทำให้ระบบทางเดินอาหารมีความเปลี่ยนแปลงในค่าความเป็นกรด-ด่าง ร่างกายจึงต้องขับน้ำเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารมากขึ้น สมุนไพรประเภทนี้ได้แก่ มะขามเปียก
การใช้สมุนไพรบรรเทาอาการท้องผูกก็มีข้อควรระวังเช่นกัน แม้สมุนไพรจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงแต่ก็ไม่ควรใช้สมุนไพรบรรเทาอาการท้องผูกต่อเนื่องกันเกิน 1 สัปดาห์ เพราะสรรพคุณของสมุนไพรจะช่วยให้ระบายท้องได้ง่ายทำให้ระบบขับถ่ายเคยชินกับการใช้สมุนไพรเมื่อหยุดใช้ยาสมุนไพรแล้วระบบขับถ่ายจะไม่ยอมทำงานตามปกติเนื่องจากเคยชินกับการใช้ยาระบายเป็นเวลาต่อเนื่องกันนานๆ ผลก็คือทำให้ต้องกลับไปใช้ยาสมุนไพรอีกแต่ต้องเพิ่มขนาดของยาให้มากขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิดอาการท้องผูกและจำเป็นต้องใช้ยาระบายจึงควรใช้แต่พอดี หากอาการท้องผูกดีขึ้นแล้วก็ให้หยุดใช้ยาระบายให้หันมาใช้วิธีธรรมชาติคือกินผักผลไม้ ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องพบกับอาการท้องผูก (Constipation) อีกต่อไป