22 พฤษภาคม 2552

การแพ้สมุนไพร (Allergy to Herb) เป็นอย่างไร

ยาสมุนไพร (Natural Herbs) มีประโยชน์มากมายเป็นที่รู้กันดีแต่มีอีกด้านหนึ่งของยาสมุนไพร นั่นคือการแพ้ยาสมุนไพร ซึ่งถ้าจะพูดกันจริงๆแล้ว อาการแพ้ยาสมุนไพรไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆเนื่องจากยาสมุนไพรถึงแม้จะมีสรรพคุณทางยาสามารถรักษาโรคและบรรเทาอาการของโรคได้เหมือนยาแผนปัจจุบันแต่หากจะเปรียบเทียบความแรงของตัวยาแล้วจะพบว่ายาแผนปัจจุบันจะมีตัวยาที่แรงกว่าเพราะเป็นสารเคมีสกัด โอกาสที่พบว่าผู้ป่วยแพ้ยาแผนปัจจุบันจึงเป็นไปได้มากกว่าการแพ้ยาสมุนไพรที่ตัวยาไม่แรงเท่า แต่ถึงอย่างไรเราก็ควรมีความรู้เกี่ยวกับการแพ้ยาสมุนไพรไว้บ้างว่าอาการแพ้สมุนไพรนั้นเป็นอย่างไร

อาการแพ้สมุนไพรที่แสดงออกทางผิวหนัง มักจะเป็นผื่นขึ้นหรือเป็นตุ่มเล็กๆคล้ายลมพิษ บริเวณที่เกิดอาการแพ้อาจเป็นวงสีแดงอาจมีอาการร่วมอย่างอื่นด้วยเช่นตาบวมและริมฝีปากบวม อาการแพ้ยาสมุนไพรที่แสดงออกโดยทำให้วิงเวียนศีรษะ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอาการพร้อมกันหลังจากที่ยาสมุนไพรได้เข้าสู่ร่างกายไปแล้วสักครู่หนึ่ง

การแพ้ยาสมุนไพร (Allergy to Herb) ที่แสดงอาการกับหัวใจเช่น ทำให้หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ ใจสั่นหลังจากที่ได้รับยาสมุนไพรเข้าไป อาการอื่นๆที่เป็นการแพ้ยาสมุนไพรอาจเกี่ยวกับระบบการทำงานต่างๆของร่างกายเช่น ตับ ถุงน้ำดี ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม ตัวเหลือง หรืออาจเกิดอาการชาตามผิวหนัง ลิ้นชา หูอื้อ ตาพร่ามัว บางครั้งการแพ้ยาสมุนไพรก็แสดงอาการต่อระบบประสาททำให้การตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกไวกว่าปกติเช่น เพียงแค่ใช้มือลูบผมเบาๆก็ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแสบบริเวณหนังศีรษะหรือใช้มือแตะเบาๆที่ผิวหนังก็รู้สึกเจ็บปวดได้เช่นกัน

แม้ว่าอาการแพ้สมุนไพรจะเกิดขึ้นได้ยากและโอกาสเกิดก็มีน้อยแต่ควรหัดสังเกตและรู้ไว้ว่าเมื่อร่างกายได้รับยาสมุนไพร (Herb) เข้าไปแล้วมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการแพ้ยาสมุนไพร วิธีแก้ไขคือหยุดใช้ยาสมุนไพรตัวนั้นทันที โดยปกติหากหยุดใช้ยาสมุนไพรแล้วอาการแพ้สมุนไพรจะค่อยๆดีขึ้นและหายไปเองแต่ก็มีข้อยกเว้นหากหยุดใช้ยาสมุนไพรแล้วอาการแพ้ยังมีอยู่ให้พาผู้ป่วยมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง