13 กรกฎาคม 2552

แก้วมังกร สรรพคุณที่มากมาย (Dragon Fruit Benefits)

แก้วมังกร (Dragon Fruit) เป็นพืชในตระกูลเดียวกับต้นกระบองเพชร การปลูกแก้วมังกรต้องสร้างเป็นหลักไม้ให้ต้นแก้วมังกรเกาะยึดเนื่องจากลำต้นของแก้วมังกรไม่สามารถยืนอยู่ด้วยตัวของมันเองได้เพราะลักษณะลำต้นที่อ่อนเหมือนไม้เลื้อย การปลูกแก้วมังกรโดยการสร้างหลักให้ต้นแก้วมังกรเกาะยึดจะทำให้ลำต้นสามารถเจริญเติบโตและขยายกิ่งก้านสาขาออกไปได้ ลักษณะลำต้นของแก้วมังกรจะอวบน้ำเป็นสามแฉกคล้ายๆต้นโบตั๋น ผลของแก้วมังกรภายในจะมีทั้งเนื้อสีขาว (แก้วมังกรขาว) และเนื้อสีแดง (แก้วมังกรสีแดง) ซึ่งเป็นพันธุ์ไต้หวัน ภายในเนื้อแก้วมังกรจะมีเม็ดเล็กๆสีดำคล้ายงาดำแทรกกระจายอยู่ทั่วไปในเนื้อแก้วมังกร

แก้วมังกร สรรพคุณในการด้านต่างๆ นอกจากจะกินแก้วมังกรเป็นผลไม้เพื่อคลายร้อนให้ชื่นใจแล้ว ธาตุเหล็กในแก้วมังกรมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณ กระตุ้นต่อมน้ำนมในผู้หญิง แก้วมังกรยังให้แคลอรี่ที่ต่ำ (Low Calories) แต่มีวิตามินซีและกากใยสูงจึงอาจนำมาใช้สำหรับกินให้อิ่มท้องแต่ได้แคลอรี่ต่ำซึ่งให้ผลในการช่วยลดน้ำหนักอีกทางหนึ่ง

แก้วมังกร สรรพคุณและประโยชน์ในการเป็นพืชสมุนไพร ส่วนที่เป็นเมล็ดของแก้วมังกรที่เป็นเม็ดสีดำแทรกอยู่ทั่วไปในเนื้อแก้วมังกรนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษต่างๆออกจากร่างกายทำหน้าที่คล้ายสมุนไพรที่ช่วยขับหรือดูดซับสารพิษภายในร่างกาย นอกจากแก้วมังกรจะมีคุณค่าทางโภชนาการแล้วยังช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย ป้องกันมะเร็งลำไส้และโรคหัวใจได้อีกด้วย

แก้วมังกร (Dragon Fruit) มักถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดน้ำหนักเนื่องจากให้แคลอรี่ต่ำโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักส่วนมากจะกินแต่แก้วมังกรเป็นอาหารหลักไปเลยก็ว่าได้ แต่อย่าลืมว่าผลในการลดน้ำหนักเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้นไม่ใช่ประโยชน์หลักของแก้วมังกร การกินผลไม้ให้ได้ประโยชน์อย่างถูกต้องก็เหมือนกับการกินอาหารเนื่องจากไม่มีผลไม้ชนิดใดที่มีสารอาหารทุกชนิดครบถ้วนอยู่ในตัว การที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจึงต้องการการกินที่หลากหลาย (Eating a variety of foods) จึงจะเรียกว่า “กินเป็น”